“กาแฟ” ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว สำหรับคอกาแฟ ที่ตื่นเช้ามาต้องดื่มกาแฟก่อน บ้างก็ดื่มเพราะอรรถรสของมัน บ้างก็ดื่มเพราะเชื่อว่าดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายฟื้นจากการสะลึมสะลือ เหมือนกับการบูสร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในบัดดล แล้วกาแฟ มีประโยชน์อย่างไร และช่วยให้กระปรี้กระเปร่าจริงไหม มาดูกันเลย

“Coffee or me?” หรือ “Coffee, tea or me?” เป็นวลีที่ชาวเน็ตนิยมนำมาใส่แคปชั่นในช่วงหนึ่ง ของคนที่ ยังโสด เพื่อให้เลือกว่าจะเลือกอะไรระหว่างกาแฟ ชา หรือฉัน เป็นแคปชั่นอ่อยในตำนานตั้งแต่สมัยก่อน แต่กลับมาฮิตติดหูอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้

ในทุกวันนี้ คนญี่ปุ่นดื่มกาแฟเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400 แก้วต่อคนต่อปี ส่วนฝั่งยุโรปจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 600 แก้วต่อคนต่อปี ถ้าหันกลับมามองที่ประเทศไทย คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปี

ถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว ธุรกิจกาแฟยังสามารถเติบโตไปได้อีกมาก ทำให้ในปี 2563 นี้ อัตราการเติบโตของธุรกิจกาแฟมีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะออกไปธุระข้างนอก ที่ไหนก็มีกาแฟขาย ไม่ว่าจะร้านกาแฟสด รถขายเครื่องดื่ม หรือแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อก็ตาม

- Advertisement -

ถ้าถามคนที่จบใหม่หรือนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ในสมัยก่อนว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร? ก็คงไม่พ้นหมอหรือวิศวะ แต่ในปัจจุบันนี้ถ้าถามคำถามเดียวกัน ส่วนใหญ่จะตอบว่า อยากเปิดร้านกาแฟ อย่างแน่นอน

แล้วกาแฟดียังไง? ทำไมถึงมีคนดื่มกาแฟมากขึ้น แล้วทำไมคนถึงชื่นชอบ มาหาคำตอบกันไปพร้อมกันได้เลย

1 กาแฟทำให้คุณตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพสมอง

กาแฟไม่เพียงแค่ทำให้ตื่นตัวหรือกระปรี้กระเปร่าเท่านั้น แต่กาแฟมีคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นประสาท โดยคาเฟอีนไปขัดขวางการทำงานของ Adenosine ทำให้สมองไม่รับรู้ถึงการง่วงนอน (Sleep pressure)

ดังนั้นเมื่อดื่มกาแฟเข้าไปแล้ว คาเฟอีนจะทำหน้าที่เหมือนหลอกสมองของเราให้เข้าใจว่ายังตื่นและไม่ง่วงนอนอยู่

นอกจากทำให้ตื่นตัวแล้ว ยังทำให้ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดสูงขึ้น และอัตราการหายใจเร็วขึ้นอีกด้วย

2 กาแฟช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

- Advertisement -

จากผลการวิจัย ผลของการดื่มกาแฟต่อการทดสอบออกกำลังกาย พบว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 11-12% เลยทีเดียว

คาเฟอีนจากกาแฟ ไปช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่เพิ่มการเผาผลาญและเพิ่มการเกิดออกซิเดชันของกรดไขมันอีกด้วย

3 กาแฟช่วยลดความเสี่ยงของอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสัน เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการเคลื่อนไหว

โรคอัลไซเมอร์ เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทและเป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อม

จากการวิจัย พบว่า คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำมีความเสี่ยงสมองเสื่อมลดลงถึง 60%

- Advertisement -

4 กาแฟดีต่อตับ ลดความเสี่ยงโรงมะเร็งตับ

ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญในร่างกายเรา นำสารอาหารที่ย่อยแล้วจากทางเดินอาหารมาปรับเป็นสารอาหารที่ใช้ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย สร้างน้ำดี และมีหน้าที่อีกหลายอย่าง

จากการศึกษาพบว่า กาแฟสามารถลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งได้มากถึง 80% และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งตับได้ถึง 43%

5 กาแฟช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ

ในเมล็ดกาแฟไม่ได้มีเพียงแค่คาเฟอีน แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินหรือแร่ธาตุ

เมื่อเห็นประโยชน์ของการดื่มกาแฟขนาดนี้ ก็อย่าเพิ่งดีใจดื่มวันละหลายแก้วแทนน้ำ เรามาดูกันว่าหากดื่มมากไปจะเกิดอะไรขึ้น และมีข้อควรระวังอย่างไร

- Advertisement -

เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่าการดื่มกาแฟ ก็เหมือนการที่เราได้รับคาเฟอีนเข้าไปด้วย ซึ่งคาเฟอีนไม่ได้มีอยู่ในเฉพาะกาแฟ แต่ก็มีมากในกาแฟเช่นกัน

ในหนึ่งวันไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกินวันละ 400 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่ากับกาแฟ 4 แก้ว หรือเทียบเท่ากับเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวดหรือน้ำอัดลม 10 กระป๋อง ยังไม่นับถึงเรื่องปริมาณน้ำตาลที่ได้รับมาด้วย

การดื่มกาแฟนั้นมีประโยชน์แต่หากดื่มมากไปอาจทำให้ นอนไม่หลับ วิตกกังวล หรือติดคาเฟอีน ทางที่ดีคือไม่ดื่มกาแฟมากเกินไปในแต่ละวัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงดังกล่าว

บทความโดย ยังโสด
อ้างอิง 1, 2, 3, 4

 

 

- Advertisement -