ตอนอกหัก คุณผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง 5 คำตอบโดนใจจากชาวยังโสด

เชื่อว่าหลายๆ คนก็มีประสบการณ์อกหักกันมาบ้างเป็นธรรมดาของคนโสด ไม่ว่าจะโดนเทโดนทิ้ง หรือเลือกเป็นคนที่จะเดินจากมาเอง ไม่ว่ายังไงก็ตามก็คือความรักของคนสองคนได้เดินมาจนสุดทางแล้ว เพียงแต่ต่างกันตรงที่แต่ละคนมีมุมมองและการจัดการอารมณ์และความรู้สึกหลังจากอกหักที่แตกต่างกัน

เมื่อส่งคำถามนี้ไปถามชาวยังโสดในเพจ ผลปรากฎว่ามีคำตอบดีๆ มากมายเกิดขึ้น ตอบกันเข้ามามาก และขออนุญาตคัดบางส่วนมานำเสนอเพื่อเป็นแนวทาง หากใครที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาอกหักนี้ จะได้มีแนวทางในการจัดการอารมณ์และความรู้สึกตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

มาเริ่มต้นกันที่คอมเม้นท์แรกกันเลย

การยอมรับความจริง เป็นสิ่งที่จะทำให้เราก้าวผ่านไปได้ แต่หลายคนยังติดตรงที่ยังหาเหตุผลว่าทำไม ตัวเองทำอะไรผิด ความรักนี้ถึงได้จบลง บางทีคำถามก็อยู่ในคำตอบในตัวมันเอง คือเค้าไม่ได้รักเราแล้ว

ต่อให้เราดีแค่ไหน เค้าก็ไปอยู่ดี ยอมรับความจริงแล้วเดินหน้าต่อไป “ชีวิตจะต้องนำพาเราไปพบเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ” เห็นด้วยกับโควทนี้มากๆ เพราะหากเราเลือกใครสักคนเข้ามา ก็ต้องดีกว่าเก่าและดีกว่าเราต้องอยู่คนเดียว

เชื่อว่าคนที่ยังโสดหลายๆ คน ก็ต้องจัดการปัญหาทางด้านอารมณ์คนเดียว บางคนเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง สตรองค์มากพอที่จะแอบซ่อนมุมที่บอบบางเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น สุดท้ายแล้วคนที่รักเรา วันนึงก็อาจทิ้งเราไป

ดังนั้นก็อย่าลืมกลับมารักตัวเอง อยู่กับตัวเองอยู่กับครอบครัว ฮีลใจ คิดซะว่าหมดเวรหมดกรรม เหมือนเพื่อนชาวยังโสดท่านนี้ที่เม้นท์ ที่เก่งมากๆ สามารถผ่านมันมาได้ด้วยตัวคนเดียว

เป็นธรรมดาที่คนอกหักจะมีน้ำตาไหลออกมา มันจะไหลออกมาเอง ร้องไห้ออกมาให้พอ แล้วมันจะดีขึ้นจริงๆ แล้วอย่าลืมกลับมารักตัวเองให้มากๆ ทุกอย่างได้ผ่านพ้นมาแล้ว ความรักที่ไม่ใช่รักที่แท้จริง มักผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป

ชอบตรงแฮชแท็กที่ว่า “เค้าน่าเสียใจมากกว่าเรา เพราะเค้าได้เสียคนที่รักเค้ามากที่สุดไปแล้ว แต่เราแค่เสียคนที่ไม่ได้รักเราไป” คำนี้มันจริงมากๆ เค้ายังไม่เสียดายเราเลย แล้วเราจะไปเสียดายเค้าทำไม จริงมั้ย 🙂

คนเราเกิดมาก็เพื่อได้ใช้ชีวิตแค่ช่วงหนึ่ง มีเกิดมีดับสูญในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือชีวิต ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอน แต่การมีกัลยาณมิตรดี มีครอบครัวดี จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ง่ายขึ้น

การไม่ยึดติดกับอะไร ดีต่อใจที่สุดแล้ว ปล่อยวาง หากเค้าเลือกที่จะจบความสัมพันธ์ เพราะเชื่อว่าคนที่ยังโสดหลายๆ คน ก็คงไม่มีใครอยากให้รักครั้งก่อนจบลงเช่นกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่ทำให้รักจบลง มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

เจ็บให้สุด เจ็บให้พอ แต่เจ็บอย่างมีสติ ร้องไห้ให้ทุกสิ่งที่อัดอั้นมันไหลออกมา แต่อย่าทำร้ายตัวเอง จิดใจอาจผูกพันและรักกันกับเค้า แต่ร่างกายเลือดเนื้อเรา พ่อแม่เป็นคนให้มา เค้าแค่ไม่รักเรา เราก็แค่กลับมารักตัวเอง กอดตัวเองแน่นๆ อยู่กับความเป็นจริง มีสติให้มากๆ

ชอบคอมเม้นท์นี้ตรงเตือนสติให้กับใครหลายๆ คนได้ดี ว่าเราเองยังมีคนที่รักอีกหลายๆ คนอยู่ข้างหลัง ถึงแม้คนที่อยู่ข้างๆ กัน เค้าเลือกที่จะไม่อยู่ข้างๆ อีกแล้วก็ตาม

ยังมีอีกหลายๆ คอมเม้นท์ที่ดีๆ สามารถตามไปส่องได้ที่ >> ลิงค์นี้ << ได้เลย

ส่วนในมุมมองของผู้เขียนคือ …

ถ้าความรักมันได้จบลงไปแล้ว ไม่ต้องถามหาเหตุผลอะไรให้วุ่นวาย จบก็คือจบ ถึงแม้อารมณ์และความรู้สึกจะยังคงอยู่ การที่เราได้รักและถูกรักในห้วงเวลาหนึ่ง มันก็ได้ถูกบันทึกในไทม์ไลน์ชีวิตของเราแล้ว และเค้าก็ไม่อยากมีไทม์ไลน์ชีวิตร่วมกันกับเราอีก ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายเดินจากไปไม่สำคัญ คือเราทั้งคู่แค่ยังไม่ใช่ อาจในช่วงเวลานี้

บางครั้งการแยกจากกันไปก็เพื่อไปค้นหาตัวเอง แยกย้ายกันไปเติบโต ไปมีชีวิต คิดวิเคราะห์ตกผลึก อาจไปเจอความสัมพันธ์ใหม่ๆ กับคนใหม่ หรือบางทีโลกก็อาจเหวี่ยงใครคนเก่าเข้ามาในเวลาที่ใช่อีกครั้งก็เป็นได้

หลายคนก็ประสบความสำเร็จในความรัก เพราะการกลับมาคบกันอีกครั้งก็มี ไม่อย่างงั้นคำว่า “ถ่านไฟเก่า” คงไม่เป็นคำที่กล่าวขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ เพียงแค่ว่าความรักครั้งก่อน จบลงในแบบที่แย่หรือจบในแบบที่จดจำกันไว้แต่เรื่องดีๆ

“อย่าลืมว่าเค้าทำอะไรไว้ ในวันที่เราอกหัก และจดจำความรักในเรื่องดี เมื่อเวลาผ่านไป”

เพื่อให้เราตัดใจง่ายขึ้น ก็อย่าลืมว่าเค้าทำอะไรแย่ๆ กับเราบ้าง และเมื่อเวลาผ่านไป ก็จดจำแต่เรื่องราวดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น ถ้าทำได้คือเราได้ปล่อยวางเค้าคนนั้นไปจากใจแล้ว ให้มันเหลือแต่เรื่องราวดีๆ ในไทม์ไลน์ชีวิตของเรา ดีกว่าจะมานั่งเก็บเอาความรู้สึกแย่ๆ ที่เคยมีกับเค้าเอาไว้

ปล่อยวางและปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากเค้า แล้วเราก็เดินหน้าต่อไป เพื่อให้ครั้งหนึ่งได้มีเรื่องเล่าดีๆ เก็บเอาไว้บ้าง นึกถึง คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าโหยหาหรือต้องการกลับไป มันก็แค่เรื่องราวดีๆ ในชีวิตเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง move on …

เรียบเรียงโดย ยังโสด